- คืออาการปวดข้างเดียว อาจจะสลับซ้ายขวาได้
- มักปวดบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา ขมับและขากรรไกร
- ลักษณะการปวดเป็นแบบตุ๊บๆบางรายปวดศีรษะมากจนทำงานไม่ได้ ส่วนใหญ่ปวดนานครั้งละหลายๆชั่วโมง
ปัจจัยที่ทำให้ปวด ไมเกรน มากขึ้นคือ การเคลื่อนศีรษะ
หลังปวดศีรษะอาจมีอาการคลื่นไส้ ถ้ามากจะเป็นอาเจียน บางครั้ง ผู้ป่วยที่เป็นไมเกรนอาจจะมีอาการนำ เช่นเห็นแสงแลบ ตามองไม่เห็น ชาซีกใดซีกหนึ่งเราเรียก classic migraine แต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการนำเรียก common migraine
ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้บ่อยกว่าผู้ชาย บางคนปวดขณะมีประจำเดือนและหายไปเมื่อตั้งครรภ์ ผู้ป่วยบางคนเมื่อรับประทานยาคุมกำเนิด จะมีอาการปวดศีรษะรุนแรงและถี่ขึ้น บางคนไม่เคยเป็นไมเกรนแต่หลังจาก รับประทานยาคุมกำเนิด ก็เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ สำหรับคนที่เพิ่งมามีอาการหลังจากรับประทานยาคุม กำเนิดควรไปปรึกษาแพทย์
ไมเกรน เป็นโรครักษาไม่หายขาด แต่ถ้าเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำก็จะสามารถบรรเทาอาการ ของโรคได้
ควรหลีกเลียงอาหารที่มากระตุ้นการเกิดอาการปวดหัว ไมเกรน เช่น
ผงชูรส เบคอน ไส้กรอก ซาเซมิ แฮม หรืออาหารที่มีไขมันมาก งดดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีสารกระตุ้นต่างๆซึ่งจะทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ หัวใจเต้นรัว
สมุนไพรโบราณแก้ที่ต้นเหตุเป็นหลัก
คือคลายกล้ามเนื่อต้นคอให้มันตึงน้อยลง ไม่ให้ เกร็งตัวบีบตัว ช่วยขยายเส้นเลือด แล้วยังแก้ที่ธาตุลมทำให้แรงดันเลือดเพิ่มขึ้น เลือดก็จะไปเลี้ยงสมองได้ดี ในขณะที่ยาปัจจุบันมันไม่แก้ตรงจุดแค่ไประงับปวดแล้วก็บอกว่า ไมเกรนรักษาไม่หาย
คุณหมอเส็ง ได้แนะนําผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทานได้ คือ
สตาร์ไลฟ์ 111 ครั้งละ 30 cc (เช้า-เย็น)
ยาบรรเทาปวดเมื่อย ครั้งละ ครึ่งขวด (เช้า-เย็น)
หอมน้ำแก้ลม ครั้งละ ครึ่งขวด (เช้า-เย็น)
*ทานติดต่อกัน 7-10 วัน อาการมึนหัว อ่อนเพลีย เหนื่อย ใจสั่น ปวดหัวปวดต้นคอเป็นประจำจะน้อยลงหรือดีขึ้น ทานติดต่อกันเรื่อยๆ อาการจะหายไป
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่บุคคล)